รู้จักกับประเทศอังกฤษ

ประเทศอังกฤษ (England) หนึ่งในสี่ประเทศที่รวมกันภายใต้ชื่อ สหราชอาณาจักร (The United Kingdom) อันได้แก่ อังกฤษ (England), เวลส์ (Wales), สก็อตแลนด์ (Scotland), และ ไอร์แลนด์เหนือ (Northern Ireland) เป็นหมุดหมายที่สำคัญในเรื่องการศึกษาสำหรับนักเรียน นักศึกษาจากทั่วโลก นอกจากจะเป็นแหล่งทรัพยากรทางด้านความรู้ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นที่น่าเชื่อถือ ได้มาตรฐานระดับโลกแล้ว ประเทศอังกฤษยังเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมที่หลากหลายจากทุกมุมโลก ผู้คนที่หลากหลาย เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ทั้งยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่ได้สัมผัส การเดินทางเพื่อมาศึกษาต่อในอังกฤษ จึงได้รับความนิยมไม่เคยลดน้อยลงไปเลย

ภาษาอังกฤษเป็นส่วนสำคัญของการเริ่มเรียนรู้ภาษาต่างประเทศของนักเรียนทั่วโลก การได้มีโอกาสเรียนภาษาอังกฤษ ในประเทศที่เป็นบ้านเกิดของภาษานี้ รวมถึงการได้สัมผัสวัฒนธรรมของคนอังกฤษ เพื่อเปิดมุมมอง และเพิ่มพูนประสบการณ์ในการใช้ชีวิตของนักเรียน จึงเป็นเหตุผลสำคัญอีกข้อหนึ่งที่หลายคนเลือกประเทศอังกฤษ เป็นจุดหมายของการศึกษาสำหรับบุตรหลาน

 

 

ข้อมูลทั่วไปของอังกฤษ

อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปี ประมาณ -5 ถึง 32 องศาเซลเซียส

มี 4 ฤดู ได้แก่ ฤดูหนาว (ธันวาคม- กุมภาพันธ์), ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม), ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) และ ฤดูใบไม้ร่วง(กันยายน-พฤศจิกายน)

ภาษาราชการ: ภาษาอังกฤษ มีภาษาและสำเนียงท้องถิ่น เวลส์, ไอร์แลนด์ และ สก็อตแลนด์

สกุลเงิน: ปอนด์ (GBP: British Pound)

เวลาห่างจากประเทศไทย:    ฤดูร้อนช้ากว่าประเทศไทย 6 ชม./ ฤดูหนาวช้ากว่าประเทศไทย 7 ชม.

สายการบินที่บินตรงมาถึงกรุงลอนดอน: สายการบินไทย, EVA Air, British Airways

 

ข้อมูลด้านวีซ่า:

ปี 2025 เป็นต้นไป ระบบการออกวีซ่าของอังกฤษ จะเป็นแบบ E-Visa สำหรับผู้ที่ถือวีช่าระยะยาว เช่น Student Visa จะไม่ต้องใช้ BRP card เพื่อยืนยันสถานภาพในการเข้าประเทศอังกฤษ แต่จะต้องมีการลงทะเบียนไว้ในระบบของทางรัฐบาลอังกฤษ ที่สามารถเรียกดูข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตนได้ผ่านทางแอพพลิเคชั่น UK Immigration ID Check

• สำหรับนักเรียนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ต้องขอวีซ่า ประเภท Child Student Visa และต้องเข้าเรียนในโรงเรียนแบบ private school เท่านั้น (หากไม่มีผู้ปกครองอาศัยอยู่ด้วย ต้องเรียน
• แบบ Boarding School เท่านั้น)วีซ่าประเภทนี้ห้ามทำงานโดยเด็ดขาด
• วีซ่านักเรียนที่เรียนในระดับปริญญาตรีขึ้นไป สามารถทำงานพิเศษได้ สัปดาห์ละ 20 ชม. ในกรณีปิดเทอม สามารถทำงานได้เต็มเวลา
• UK Visitor visa แบบ 6 เดือน นักเรียนที่มาเรียนภาษาหรือเข้าแคมป์ระยะสั้น ไม่เกิน 6 เดือน สามารถเรียนในอังกฤษได้ แต่ห้ามทำงาน

 

ทำไมเลือกมาเรียนที่อังกฤษ

1. เพิ่มพูนประสบการณ์ในต่างแดนให้กับนักเรียน ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
2. ระบบการศึกษาที่มีชื่อเสียงและได้มาตรฐานระดับโลก เป็นที่ยอมรับมาอย่างกว้างขวาง
3. สังคมที่เปิดกว้างและหลากหลาย ช่วยให้นักเรียนได้เปิดมุมมองใหม่ เพิ่มความมั่นใจ สร้างบุคลิกอันพึงประสงค์
4. มีระบบการเรียน และหลักสูตรที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน และก้าวล้ำนำสมัยอยู่เสมอ
5. เดินทางท่องเที่ยวในยุโรปได้สะดวก
6. ค่าเรียนต่อปีไม่แพงอย่างที่คิด คุ้มค่าการลงทุน
7. เตรียมนักเรียนให้เป็นผู้ที่มีความสามารถหลากหลาย เหมาะสมกับความสามารถและความถนัด
8. สร้างให้นักเรียนเป็นตัวของตัวเอง รู้จักคิดอย่างเป็นเหตุผล วิเคราะห์ และตั้งคำถาม แก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์

 

Urban Sage Study ให้บริการ

• ให้คำปรึกษาด้านการเลือกสถานที่เรียน ในโรงเรียนประจำระดับ Year 9 ขึ้นไป ในโรงเรียนเขตภาคกลางของอังกฤษได้แก่ Ratcliffe College, Stamford School, และ Nottingham Trent
• ช่วยเหลือในการสมัครเรียนทุกขั้นตอน
• ช่วยเหลือในการสมัครวีซ่านักเรียน
• ช่วยเหลือในการพาผู้ปกครองและนักเรียนเยี่ยมชมโรงเรียน

 

UK Education Journey

ระบบการศึกษาในประเทศอังกฤษในช่วงมัธยมศึกษาตอนปลาย สำหรับนักเรียนต่างชาติ

การศึกษาภาคบังคับ (Secondary Education)

Year 9 (เทียบเท่า ม. 3)  อายุ14 ปีขึ้นไป

เรียนในวิชาพื้นฐานทั่วไป ปลายเทอม 2 (มีนาคม) จะมีการเลือกวิชาเพื่อเรียนในระดับ GCSE 5-8 วิชา การเลือกรายวิชาจะมีวิชาหลักที่ต้องเรียนได้แก่ คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ สามารถเลือกรายวิชาที่ชอบและสนใจได้จาก รายการวิชาที่เปิดสอนในแต่ละโรงเรียน และนอกจากเลือกรายวิชาที่จะเรียนแล้ว ควรให้ความสำคัญกับการเลือกกิจกรรมเสริมทักษะ (Co-curricular) ของนักเรียนด้วย เช่นกีฬา, ชมรม, กิจกรรมอื่นๆ ที่เป็น ส่วนสำคัญให้นักเรียนมีประสบการณ์ที่หลากหลาย นำไปประกอบ Portfolio เพื่อสมัครเรียนต่อได้

Year 10 เรียนวิชาที่เลือก (GCSE)

Year 11 เรียนวิชาที่เลือก (GCSE) และสอบ National Exam ผลการสอบจะต้องได้คะแนนเกรด C (หรือ 4 Standard Pass) ขึ้นไป ใน 5 วิชาจาก 8 วิชาที่เลือกเรียน จึงจะถือว่า สอบผ่านได้วุฒิการศึกษา GCSE (General Certificate of Secondary Education)

 

การศึกษาต่อในคุณวุฒิที่สูงขึ้นไป (Further Education)

นักเรียนที่จบการศึกษาวุฒิ GCSE แล้ว สามารถเลือกเรียน

1. สายวิชาการ ระดับ A-Level ใช้เวลา 2 ปี เพื่อเรียนในวิชาที่จำเป็นต้องใช้สมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัย ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เวบไซต์ https://www.ucas.com/undergraduate/applying-to-university
2. ในสายอาชีพ (BTEC, NGVQ) เพื่อหาประสบการณ์ในเชิงวิชาชีพ เน้นการลงมือทำและนำเสนอผลงาน ใช้เวลาเรียน 2-3 ปี และนำวุฒิที่ได้ไปสมัครงาน หรือเรียนต่อในมหาวิทยาลัยได้ รายละเอียดเพิ่มเติม เว็บไซต์ https://qualifications.pearson.com/en/about-us/qualification-brands/btec.html

 

ข้อดีของการเรียนต่อมัธยมปลายในอังกฤษ

1. ปูพื้นวิธีการเรียนแบบอังกฤษที่เน้นการค้นคว้าวิจัย เรียนรู้ด้วยตัวเอง และภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่ออย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
2. เข้าใจสังคม วัฒนธรรม ปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนจากนานาชาติ สร้างเครือข่ายให้การทำงานในอนาคต
3. เข้าใจตัวเองมากขึ้น จากมุมมองที่ต่างออกไป ทำให้เห็นจุดอ่อน จุดแข็ง สร้างความมั่นใจให้ตัวเองได้
4. มีโอกาสเข้าถึงความรู้ใหม่ และโอกาสที่จะเรียนรู้ได้จากสังคมที่เปิดกว้างต่อการเรียนรู้ด้วยตัวเอง
5. เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยในอังกฤษ และทั่วโลกได้
6. เรียนต่อในระดับปริญญาตรี เมื่อเรียนจบ สามารถขอวีซ่าเพื่อหางานทำต่อได้อีก 2 ปี
7. หากมีไอเดียด้านธุรกิจ สามารถต่อยอดในการเริ่มทำ start-up ในอังกฤษได้

 

ข้อควรทราบในการเรียนต่อมัธยมปลายในอังกฤษ

1. นักเรียนต่างชาติที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องเรียนในโรงเรียนแบบ Independent School หรือ Boarding School เท่านั้น
2. นักเรียนต่างชาติที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องมี Guardian ผู้ดูแลแทนพ่อแม่ โดยมีคุณสมบัติ : อายุ 25 ปีขึ้นไป , สัญชาติอังกฤษ หรือ ถือวีซ่าทำงานแบบถูกต้องตามกฎหมาย , ไม่มีประวัติอาชญากรรม
3. นักเรียนที่อายุ 16-18 ปี สามารถทำงานพิเศษได้ไม่เกิน 10 ชม./ สัปดาห์
4. นักเรียนต่างชาติต้องมี student visa หรือ child student visa (อายุต่ำกว่า 16 ปี) ก่อนเดินทางเข้ามาเรียนเท่านั้น
5. นักเรียนต่างชาติที่มาเรียนต่อในอังกฤษ ต้องมีเงินทุนสำหรับยืนยันว่า สามารถจ่ายค่าเรียนและค่ากินอยู่ในอังกฤษได้ หากเรียนในลอนดอนขั้นต่ำต้องแสดงเงินในบัญชีอย่างน้อย £1,334/เดือน เป็นเวลา 9 เดือน เท่ากับต้องมีเงินในบัญชีอย่างน้อย £12,006 หากเรียนนอกลอนดอน ขั้นต่ำต้องแสดงเงินในบัญชีอย่างน้อย £1,023/เดือน เป็นเวลา 9 เดือน เท่ากับต้องมีเงินในบัญชีอย่างน้อย £9,207

 

ทำไมต้องเลือกเรียนที่โรงเรียนประจำแบบอังกฤษ

นอกจากเรื่องของเนื้อหาวิชาการที่เป็นส่วนสำคัญในการเลือกโรงเรียนแล้ว สิ่งแวดล้อมต่างๆ ทั้งสถานที่เรียน, สิ่งอำนวยความสะดวก, ความปลอดภัย, สุขลักษณะที่ดี, บุคลากรที่น่าเชื่อถือ และวางใจได้, กิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการการเรียนรู้ สิ่งต่างๆเหล่านี้ มีความสำคัญต่อการเติบโตของบุตรหลานของท่าน ในการสร้างบคลิกภาพที่ดี ความรู้ความสามารถที่เจริญก้าวหน้า มีความมั่นใจ สร้างความโดดเด่นในสังคม สามารถเอาตัวรอด และอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมโลกที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีความสุข โรงเรียนประจำแบบอังกฤษ สามารถตอบโจทย์ในด้านต่างๆที่ผู้ปกครองมองหาจากการส่งบุตรหลานไปศึกษาต่อในต่างประเทศ

 

Urban Sage Study ขอแนะนำโรงเรียนประจำแบบอังกฤษ (British Boarding School) ดังต่อไปนี้

 

โรงเรียน Ratcliffe College

 

ข้อมูลทั่วไปของโรงเรียน Ratcliffe College

สถานที่ตั้ง:               เมืองเลสเตอร์ (Leicester) ประเทศอังกฤษ (ห่างจากลอนดอนไปทางเหนือ โดยรถยนต์ประมาณ สอง ชั่วโมงครึ่ง) ตั้งอยู่ในเขต East Midlands

ประเภท:                  โรงเรียนเอกชนสหศึกษาแบบคาธอลิก แบบประจำ และ ไป-กลับ

ก่อตั้งเมื่อปี:             1847

เปิดสอนในระดับ:     Early year (3-5 ปี), Prep School (5-11 ปี), Senior School รวมถึง GCSE และ A-Level (12-18 ปี)

Website:                  www.ratcliffe-college.com

 

ความโดดเด่นของโรงเรียน

1. เป็นโรงเรียนสหศึกษาที่รับนักเรียนจากทั่วโลก ไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา นักเรียนส่วนใหญ่เป็นชาวอังกฤษ ที่มาจากครอบครัวที่ดี และมีคุณภาพ
2. ตั้งอยู่นอกเมือง ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม สงบร่มรื่น ปลอดภัย และเหมาะแก่การเรียน
3. มีอาคารเรียนเก่าแก่ สถาปัตยกรรมสวยงาม แต่มีความทันสมัย ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งโรงพละ สระว่ายน้ำ ห้องสมุด
4. ผลการเรียนของนักเรียนอยู่ในระดับดีเยี่ยม ทุกปีมีนักเรียนสอบได้เกณฑ์ A* มากกว่า 90% และเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงทั้งในและนอกประเทศอังกฤษ
5. โดดเด่นในสาขา คณิตศาสตร์, เศรษฐศาสตร์, การออกแบบ, ดนตรี, กีฬา, วิศวกรรมศาสตร์
6. มีนักเรียนต่างชาติมากถึง 5% ของนักเรียนทั้งหมด จากทั่วโลกเช่น ไต้หวัน,ฮ่องกง,ไนจีเรีย, สเปน เป็นต้น
7. กิจกรรมเสริมหลากหลาย ทั้งด้านดนตรี, ศิลปะ, กีฬา, CCF(Combined Cadet Force), DoE (Duke of Edinburgh Awards), Young Entrepreneur เป็นต้น
8. มีศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงมากมาย ทั้งในแวดวงการเมือง, ธุรกิจ, แพทย์, นักแสดง เป็นต้น
9. เคยมีนักเรียนไทยมาเรียนที่นี่ ในฐานะนักกีฬาฟุตบอลเยาวชน Fox Hunt ทีม Leicester City ที่สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียน
10. คุณภาพชีวิตดี ปลอดภัย ได้รับการดูแลตลอด 24 ชม.

 

เปิดรับนักเรียนไทยในระดับ Year 9,10 (GCSE) และ Year 12 (A-Level)

 

นักเรียนต้องมีผลการเรียนวิชา Maths, Sciences และ English ในระดับดีถึงดีมาก
และนักเรียนต่างชาติควรพักอยู่ในหอพักแบบประจำ (Boarding School) ยกเว้นในกรณีที่ผู้ปกครองอาศัยอยู่ด้วยในประเทศอังกฤษ
นักเรียนต่างชาติที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องมีผู้ดูแลแทนผู้ปกครอง (Guardian) เพื่อทำหน้าที่แทนบิดามารดาในระหว่างที่เรียนอยู่ในประเทศอังกฤษ ในการดูแลนักเรียน และประสานงานกับทางโรงเรียนในเรื่องต่างๆตามสมควร โดยได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองของนักเรียนแล้วเท่านั้น

 

การเรียนการสอนแบ่งเป็น 3 เทอม/ปีการศึกษา

Autumn Term:     September-October / Half term break

October-December/ Christmas break

 

Spring Term:       January-February/ Half Term break

February-March/ Easter Break

 

Summer Term:    April-May/ Half Term Break

May-July/ Summer Break

 

โรงเรียน Stamford School

 

ข้อมูลทั่วไปของโรงเรียน Stamford School

สถานที่ตั้ง:                มณฑลลินคอล์นเซอร์ (Lincolnshire) เมืองสแตมฟอร์ด (Stamford) ประเทศอังกฤษ (ห่างจากลอนดอนไปทางเหนือ โดยรถยนต์ประมาณ หนึ่งชั่วโมง ห้าสิบนาที) ตั้งอยู่ในเขต EastMidlands

ประเภท:                   โรงเรียนเอกชนสหศึกษา แบบประจำ และ ไป-กลับ

ก่อตั้งเมื่อปี:              1532

เปิดสอนในระดับ:      Early year (3-5 ปี), Prep School (5-11 ปี), Senior School รวมถึง GCSE และ A-Level (12-18 ปี)

Website:                  https://stamfordschools.org.uk/

 

ความโดดเด่นของโรงเรียน

1. ประวัติศาสตร์ยาวนาน ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 อายุเก่าแก่กว่า 400 ปี
2. เมือง Stamford ได้รับการจัดอันดับจากสื่ออังกฤษ (Sunday Times) ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในอังกฤษ (The bestplace to live in Britain) ประจำปี 2021
3. ศิษย์เก่าของโรงเรียน มีความโดดเด่น และมีชื่อเสียงมากมาย ทั้งในแวดวงการเมือง กฎหมาย ศิลปะ การทหาร นักสื่อสารมวลชน นักธุรกิจระดับชั้นนำของโลก ดนตรี ภาพยนตร์ และด้านสาขาวิชาการ มีศิษย์เก่าจำนวนมากที่ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด และเคมบริดจ์
4. สถานที่เรียนมีความสวยงามคลาสสิคสไตล์ยุโรป แต่ครบครันด้วยอุปกรณ์การเรียน ห้องเรียนที่ทันสมัย และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
5. นักเรียนจะได้รับอุปกรณ์การเรียนเป็น Microsoft Surface สำหรับใช้ประกอบการเรียน คันคว้า และทำการบ้าน คนละ 1 เครื่อง
6. ปัจจุบันมีนักเรียนต่างชาติมากกว่า 10 ชาติทั่วโลก ที่กำลังศึกษาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ระดัยชั้นมัธยมศึกษาขึ้นไป ทำให้มีความหลากหลายในด้านของภาษาและวัฒนธรรม
7. เพียบพร้อมด้วยกิจกรรมสร้างเสริมทักษะ มีสนามกีฬามาตรฐานทั้งในร่มและกลางแจ้ง สระว่ายน้ำ และฟิตเนสเซนเตอร์

 

การเรียนการสอนแบ่งเป็น 3 เทอม/ปีการศึกษา

Autumn Term:     September-October / Half-term break

October-December/ Christmas break

 

Spring Term:       January-February/ Half-term break

February-March/ Easter Break

 

Summer Term:     April-May/ Half-term break

May-July/ Summer Break

 

นักเรียนต่างชาติที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องมีผู้ดูแลแทนผู้ปกครอง (Guardian) เพื่อทำหน้าที่แทนบิดามารดาในระหว่างที่เรียนอยู่ในประเทศอังกฤษ ในการดูแลนักเรียน และประสานงานกับทางโรงเรียนในเรื่องต่างๆตามสมควร โดยได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองของนักเรียนแล้วเท่านั้น